V2D 4 แผ่น
รายละเอียด
เทพ มนุษย์ และมาร ทั้งสามภพล้วนแตกต่าง เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงของจักรวาล ทำให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ขึ้นมา ทำลายประตูสวรรค์ซึ่งเชื่อมต่อทั้งสามภพ ด้วยเหตุนี้ทำให้สามภพเชื่อมถึงกันได้ จ้าวสุริยาเหยียนตี้ (พระอาทิตย์) ขอแรงเทพทั้งหลายกำจัดมารร้าย ในแดนมนุษย์ยับยั้งอุทกภัยจนได้รับความศรัทธาจากมนุษย์ หลังจากที่เทพทั้งหลายได้ซ่อมแซมประตูสวรรค์แล้ว ประตูสวรรค์จะต้องถูกปิด เทพทั้งหลายจะไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องราวใดในแดนมนุษย์อีกต่อไปแต่ขณะที่จ้าวสุริยาเหยียนตี้กำลังกวาดล้างมารร้ายในแดนมนุษย์ ทันใดนั้นจ้าวสุริยาเหยียนตี้กลับโชคร้ายถูกเทพอี้เหอ ลอบทำร้าย ขณะเดียวกันเทพอี้เหอก็สังหาร สิงเทียนเทพแห่งสงคราม จนถึงแก่ความตายและทำร้าย ข่าฟู่เทพแห่งดวงดาว จนต้องหลบหนีไปที่ทะเลเหนือ จากนั้นก็คุมขังจ้าวสุริยาเหยียนตี้ใต้ศิลามารซึ่งอยู่ก้นเหว ที่แท้เทพอี้เหอไม่พอใจที่ประตูสวรรค์ถูกปิด เทพอี้เหอต้องการรวมแดนสวรรค์ แดนมนุษย์และแดนมารเป็นหนึ่งเดียวกัน เทพอี้เหอช่วงชิงวังสุริยาซึ่งเป็นของจ้าวสุริยาเหยียนตี้มาครอบครอง ควบคุมสี่มหาเทพ ได้แก่ เทพพิรุณ เทพอัคคี เทพวายุ และ เทพอัสนี ให้อยู่ใต้อาณัติ การที่จ้าวสุริยาเหยียนตี้ถูกสิงเทียนคุมขังอยู่ก้นเหวนั้น จะเกิดภัยพิบัตินานนับพันปี เทพอี้เหอ ฝึกปักษาทองสิบตัวเพื่อช่วยชีวิตจ้าวสุริยาเหยียนตี้ ความจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่เทพอี้เหอต้องการใช้ปักษาทองเป็นอาวุธสังหารจ้าวสุริยาเหยียนตี้และข่าฟู่ หลังจากที่ฝึกปักษาทองแล้วเทพอี้เหอก็จะได้ตั้งตัวขึ้นเป็นจอมเทพ รวบรวมสามภพเป็นหนึ่งเดียว เทพอี้เหอแสร้งทำเป็นรักและเอ็นดู จิงเว่ย บุตรีของจ้าวสุริยาเหยียนตี้ โดยปล่อยให้นางมีชีวิตที่สุขสำราญ แต่เบื้องหลังนั้นเทพอี้เหอต้องการใช้จิงเว่ยเป็นเครื่องมือก่อแผนการอันชั่วร้าย เจ้าแม่ปัจฉิมแอบสืบหาความจริงเรื่องที่จ้าวสุริยาเหยียนตี้ถูกให้ร้ายมาโดยตลอด เพื่อความปลอดภัยของจิงเว่ย เจ้าแม่ปัจฉิมได้พาจิงเว่ยมาที่สระสำราญ
ข่าฟู่หลบหนีไปจนถึงดินแดนน้ำแข็งเหนือ ที่นั่นข่าฟู่ได้ฝึกธนูน้ำแข็งจนสำเร็จเพื่อใช้กำจัดเทพอี้เหอช่วยจ้าวสุริยาเหยียนตี้จากที่คุมขังเนื่องจากประตูสวรรค์ยังไม่ได้ถูกปิดลง ทำให้เกิดภัยพิบัติขึ้นมากมาย พวกมารร้ายแผ่อิทธิพลไปทั่ว โดยฉวยโอกาสที่เกิดภัยพิบัติขึ้นมาทำร้ายมนุษย์ทำให้มนุษย์ต้องอธิษฐานขอให้เทพทั้งหลายปกป้องคุ้มครอง เทพอี้เหอสะใจมากที่เห็นมนุษย์และเทพทั้งหลายอยู่ใต้อาณัติของตน ก่อนที่สิงเทียนเทพแห่งสงครามจะสิ้นใจลงนั้นได้รวบรวมพละกำลังและอิทธิฤทธิ์ไว้ในศิลาเบญจทิพย์ แล้วฝังไว้ในร่างของ โฮ่วอี้ ลูกชายของตนโดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโฮ่วอี้จะเป็นผู้สยบเทพอี้เหอ ศิลาเบญจทิพย์เป็นสิ่งที่ ผานกู่ ทิ้งไว้เมื่อครั้งที่เบิกฟ้า ที่สำคัญเป็นขุมกำลังอันมหาศาลของสิงเทียนเทพแห่งสงคราม ข่าฟู่ช่วยชีวิตโฮ่วอี้เอาไว้โดยหวังว่าหนึ่งพันปีให้หลังโฮ่วอี้จะเป็นคนกอบกู้แดนมนุษย์ อานุภาพของศิลาเบญจทิพย์นั้นได้ปกป้องคุ้มครองโฮ่วอี้ เมื่อโฮ่วอี้เติบใหญ่จนสามารถควบคุมพลังอันมหาศาลนี้ได้ โฮ่วอี้ก็จะกลายเป็นผู้ที่มีพละกำลังและมีอิทธิฤทธิ์เหนือคนธรรมดา แต่มีข้อแม้ว่าพละกำลังและอิทธิฤทธิ์ที่โฮ่วอี้มีนั้นจะใช้ทำร้ายเทพและมนุษย์ไม่ได้ แต่การต่อกรกับเทพอี้เหอนั้นศัตรูกลับเป็นเทพ โฮ่วอี้จะใช้พละกำลังและอิทธิฤทธิ์ที่มีนี้ได้อย่างไร เจ้าแม่ปัจฉิม รู้ว่าข่าฟู่ฝึกธนูเทพสำเร็จ อีกทั้งโฮ่วอี้ก็เติบโตเป็นหนุ่มแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะช่วยจ้าวสุริยาเหยียนตี้และเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้จิงเว่ยรู้ เจ้าแม่ปัจฉิมแนะนำให้จิงเว่ยใช้ความงามและความเฉลียวฉลาดของนางให้โฮ่วอี้ไว้วางใจ จากนั้นให้โฮ่วอี้พานางไปยังที่ซ่อนอาวุธวิเศษของข่าฟู่ จิงเว่ยจะต้องช่วงชิงธนูน้ำแข็งมาให้ได้เพื่อช่วยจ้าวสุริยาเหยียนตี้พ่อของนาง จิงเว่ยคิดว่าสิงเทียนเทพแห่งสงคราม ซึ่งเป็นพ่อของโฮ่วอี้นั้นมีส่วนให้ร้ายจ้าวสุริยาเหยียนตี้พ่อของนางด้วยเหตุนี้จิงเว่ยจึงไม่ให้ความร่วมมือกับโฮ่วอี้ นางตัดสินใจไปช่วยจ้าวสุริยาเหยียนตี้พ่อของนางตามลำพังนางเชื่อมั่นว่านางเพียงคนเดียวก็สามารถช่วยจ้าวสุริยาเหยียนตี้ได้ แต่แล้วก็ไม่เป็นอย่างที่คิดนางต้องพบกับความล้มเหลว ในที่สุดจิงเว่ยก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าแม่ปัจฉิมให้ตามหาโฮ่วอี้ให้พบในเวลาเดียวกัน เทพอี้เหอพบความเคลื่อนไหวของโฮ่วอี้ ดังนั้นจึงสั่งให้เทพ พิรุณ เทพวายุ เทพอัคคีและเทพอัสนีไปกำจัดโฮ่วอี้ แล้วช่วงชิงศิลาเบญจทิพย์จากโฮ่วอี้มาให้ได้ จิงเว่ยจำแลงร่างเป็นสาวงามออกตามหาโฮ่วอี้ จนนางถูกโจรจับตัวไป จิงเว่ยไม่อยากให้ฐานะที่แท้จริงของนางเปิดเผยออกมา ทำให้นางถูกขายให้เมืองโหย่วฉงกั๋วเพื่อเป็นเครื่องบูชายัญเซ่นไหว้ จอมมารไป๋ตี้ ในเวลาเดียวกันโฮ่วอี้เดินทางมาถึงเมืองโหย่วฉงกั๋วและได้ช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่งไว้นึกไม่ถึงว่าโฮ่วอี้กลับถูกจับกุมตัวเอาไว้ โฮ่วอี้และจิงเว่ยถูกขังไว้ด้วยกันเพื่อใช้ในการบูชายัญ
จิงเว่ยไม่คาดคิดมาก่อนว่าลูกชายของศัตรูจะมีจิตใจดีงามและมีความกล้าหาญเช่นนี้ ทำให้นางเกิดความขัดแย้งขึ้นมาในใจว่านางสมควรจะยืนกรานตามความตั้งใจเดิมหรือไม่ไป๋ตี๋ขี่เมฆดำมาที่ลานบูชายัญ จากปากของไป๋ตี้ทำให้จิงเว่ยรู้ถึงความทุกข์ทรมาณของพ่อด้วยเหตุนี้เองทำให้จิงเว่ยตัดสินใจลืมความรู้สึกดี ๆ ที่นางมีต่อโฮ่วอี้ โดยคงความตั้งใจเดิมต่อไปก่อนอื่นจะต้องสยบไป๋ตี๋แล้วช่วงชิงชุดเกราะมาให้โฮ่วอี้ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้โฮ่วอี้ จิงเว่ยช่วยโฮ่วอี้จนตามหา เหลากุ่ย (กึ่งมารกึ่งเทพ แต่มีความภักดีต่อสิงเทียนและโฮ่วอี้มาก) คนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของสิงเทียน จากความช่วยเหลือของเหลากุ่ยและ เลี่ยงม๋อโซ่ว ทำให้ช่วงชิงเรือศิลาจากเทพอัสนีมาเพื่อใช้เป็นพาหนะเดินทางไปหาข่าฟู่ซึ่งพำนักอยู่ทะเลเหนือได้ ข่าฟู่มอบธนูวิเศษให้โฮ่วอี้นึกไม่ถึงว่ากลับถูกจิงเว่ยช่วงชิงธนูวิเศษไป โฮ่วอี้ตามล่าจิงเว่ยอย่างไม่ลดละโดยมีข่าฟูตามไปไม่ห่าง เทพอี้เหอฝึกปักษาทองโดยปล่อยให้ไปเล่นงานจิงเว่ยและโฮ่วอี้ เมื่อจิงเว่ยและโฮ่วอี้ถูกกำจัดลงแล้วต่อไปก็จะไม่มีใครมาขวางทางตน ปักษาทองม้วนตัวเป็นลูกไฟก้อนใหญ่ ชาวบ้านพากันมองด้วยความตกใจโดยเข้าใจผิดคิดว่ามีดวงอาทิตย์ผุดขึ้นมาอีกลูกหนึ่ง ข่าฟู่ตามล่าปักษาทองโดยจะแลกชีวิตกับปักษาทอง ก่อนที่ข่าฟู่จะสิ้นใจลงนั้นได้ทิ้งไม้เท้าไว้ ต่อมาไม้เท้าได้กลายเป็นป่าท้อ เพื่อไว้คุ้มครองจิงเว่ยและโฮ่วอี้ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส เทพอี้เหอวางอุบายให้เทพพิรุณ เทพอัสนีและเทพอัคคีล้อมป่าท้อไว้ โดยกดดันเหลากุ่ยซึ่งอารักขาป่าท้อนั้นให้ไปจากป่าท้อ ในเวลาเดียวกันเทพอี้เหอก็ฝึกปักษาทองได้อีกเก้าตัว โดยมีจุดมุ่งหมายใช้ปักษาทองครอบครองสามภพ ขณะที่เหตุการณ์กำลังวิกฤต เทพพิรุณก็สำนึกได้ถึงความถูกต้อง ดังนั้นจึงตัดสินใจทำลายประตูสวรรค์ แม้ว่าจะช่วยชีวิตจ้าวสุริยาไว้ได้ แต่เมื่อประตูสวรรค์ถูกทำลายลงทำให้สวรรค์และปฐพีขาดความสมดุล ด้วยเหตุนี้ทำให้มนุษย์พลอยได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติไปด้วย จ้าวสุริยาเหยียนตี้บอกจิงเว่ยว่ามีเพียงการเสียสละของเทพเท่านั้นที่จะช่วยชีวิตมนุษย์ไว้ได้ เพื่อช่วยชีวิตมวลมนุษย์เอาไว้ ทำให้โฮ่วอี้ต้องสูญเสียอิทธิฤทธิ์ไปจนหมดสิ้นต้องกลายเป็นคนธรรมดาเท่านั้นจิงเว่ยเองก็เช่นเดียวกัน เพื่อช่วยชีวิตมวลมนุษย์เอาไว้จิงเว่ยจำแลงร่างเป็นปักษาเขียวบินลงสู่ก้นทะเล เวลานี้นางตัดแล้วซึ่งบุญคุณความแค้นที่มีอยู่ สิ่งที่อยู่ในความทรงจำของจิงเว่ย มีเพียงการช่วยมวลมนุษย์ให้พ้นจากความทุกข์ โดยใช้ปากคาบก้อนหินถมทะเลให้เต็ม
เทพ มนุษย์ และมาร ทั้งสามภพล้วนแตกต่าง เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงของจักรวาล ทำให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ขึ้นมา ทำลายประตูสวรรค์ซึ่งเชื่อมต่อทั้งสามภพ ด้วยเหตุนี้ทำให้สามภพเชื่อมถึงกันได้ จ้าวสุริยาเหยียนตี้ (พระอาทิตย์) ขอแรงเทพทั้งหลายกำจัดมารร้าย ในแดนมนุษย์ยับยั้งอุทกภัยจนได้รับความศรัทธาจากมนุษย์ หลังจากที่เทพทั้งหลายได้ซ่อมแซมประตูสวรรค์แล้ว ประตูสวรรค์จะต้องถูกปิด เทพทั้งหลายจะไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องราวใดในแดนมนุษย์อีกต่อไปแต่ขณะที่จ้าวสุริยาเหยียนตี้กำลังกวาดล้างมารร้ายในแดนมนุษย์ ทันใดนั้นจ้าวสุริยาเหยียนตี้กลับโชคร้ายถูกเทพอี้เหอ ลอบทำร้าย ขณะเดียวกันเทพอี้เหอก็สังหาร สิงเทียนเทพแห่งสงคราม จนถึงแก่ความตายและทำร้าย ข่าฟู่เทพแห่งดวงดาว จนต้องหลบหนีไปที่ทะเลเหนือ จากนั้นก็คุมขังจ้าวสุริยาเหยียนตี้ใต้ศิลามารซึ่งอยู่ก้นเหว ที่แท้เทพอี้เหอไม่พอใจที่ประตูสวรรค์ถูกปิด เทพอี้เหอต้องการรวมแดนสวรรค์ แดนมนุษย์และแดนมารเป็นหนึ่งเดียวกัน เทพอี้เหอช่วงชิงวังสุริยาซึ่งเป็นของจ้าวสุริยาเหยียนตี้มาครอบครอง ควบคุมสี่มหาเทพ ได้แก่ เทพพิรุณ เทพอัคคี เทพวายุ และ เทพอัสนี ให้อยู่ใต้อาณัติ การที่จ้าวสุริยาเหยียนตี้ถูกสิงเทียนคุมขังอยู่ก้นเหวนั้น จะเกิดภัยพิบัตินานนับพันปี เทพอี้เหอ ฝึกปักษาทองสิบตัวเพื่อช่วยชีวิตจ้าวสุริยาเหยียนตี้ ความจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่เทพอี้เหอต้องการใช้ปักษาทองเป็นอาวุธสังหารจ้าวสุริยาเหยียนตี้และข่าฟู่ หลังจากที่ฝึกปักษาทองแล้วเทพอี้เหอก็จะได้ตั้งตัวขึ้นเป็นจอมเทพ รวบรวมสามภพเป็นหนึ่งเดียว เทพอี้เหอแสร้งทำเป็นรักและเอ็นดู จิงเว่ย บุตรีของจ้าวสุริยาเหยียนตี้ โดยปล่อยให้นางมีชีวิตที่สุขสำราญ แต่เบื้องหลังนั้นเทพอี้เหอต้องการใช้จิงเว่ยเป็นเครื่องมือก่อแผนการอันชั่วร้าย เจ้าแม่ปัจฉิมแอบสืบหาความจริงเรื่องที่จ้าวสุริยาเหยียนตี้ถูกให้ร้ายมาโดยตลอด เพื่อความปลอดภัยของจิงเว่ย เจ้าแม่ปัจฉิมได้พาจิงเว่ยมาที่สระสำราญ
ข่าฟู่หลบหนีไปจนถึงดินแดนน้ำแข็งเหนือ ที่นั่นข่าฟู่ได้ฝึกธนูน้ำแข็งจนสำเร็จเพื่อใช้กำจัดเทพอี้เหอช่วยจ้าวสุริยาเหยียนตี้จากที่คุมขังเนื่องจากประตูสวรรค์ยังไม่ได้ถูกปิดลง ทำให้เกิดภัยพิบัติขึ้นมากมาย พวกมารร้ายแผ่อิทธิพลไปทั่ว โดยฉวยโอกาสที่เกิดภัยพิบัติขึ้นมาทำร้ายมนุษย์ทำให้มนุษย์ต้องอธิษฐานขอให้เทพทั้งหลายปกป้องคุ้มครอง เทพอี้เหอสะใจมากที่เห็นมนุษย์และเทพทั้งหลายอยู่ใต้อาณัติของตน ก่อนที่สิงเทียนเทพแห่งสงครามจะสิ้นใจลงนั้นได้รวบรวมพละกำลังและอิทธิฤทธิ์ไว้ในศิลาเบญจทิพย์ แล้วฝังไว้ในร่างของ โฮ่วอี้ ลูกชายของตนโดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโฮ่วอี้จะเป็นผู้สยบเทพอี้เหอ ศิลาเบญจทิพย์เป็นสิ่งที่ ผานกู่ ทิ้งไว้เมื่อครั้งที่เบิกฟ้า ที่สำคัญเป็นขุมกำลังอันมหาศาลของสิงเทียนเทพแห่งสงคราม ข่าฟู่ช่วยชีวิตโฮ่วอี้เอาไว้โดยหวังว่าหนึ่งพันปีให้หลังโฮ่วอี้จะเป็นคนกอบกู้แดนมนุษย์ อานุภาพของศิลาเบญจทิพย์นั้นได้ปกป้องคุ้มครองโฮ่วอี้ เมื่อโฮ่วอี้เติบใหญ่จนสามารถควบคุมพลังอันมหาศาลนี้ได้ โฮ่วอี้ก็จะกลายเป็นผู้ที่มีพละกำลังและมีอิทธิฤทธิ์เหนือคนธรรมดา แต่มีข้อแม้ว่าพละกำลังและอิทธิฤทธิ์ที่โฮ่วอี้มีนั้นจะใช้ทำร้ายเทพและมนุษย์ไม่ได้ แต่การต่อกรกับเทพอี้เหอนั้นศัตรูกลับเป็นเทพ โฮ่วอี้จะใช้พละกำลังและอิทธิฤทธิ์ที่มีนี้ได้อย่างไร เจ้าแม่ปัจฉิม รู้ว่าข่าฟู่ฝึกธนูเทพสำเร็จ อีกทั้งโฮ่วอี้ก็เติบโตเป็นหนุ่มแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะช่วยจ้าวสุริยาเหยียนตี้และเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้จิงเว่ยรู้ เจ้าแม่ปัจฉิมแนะนำให้จิงเว่ยใช้ความงามและความเฉลียวฉลาดของนางให้โฮ่วอี้ไว้วางใจ จากนั้นให้โฮ่วอี้พานางไปยังที่ซ่อนอาวุธวิเศษของข่าฟู่ จิงเว่ยจะต้องช่วงชิงธนูน้ำแข็งมาให้ได้เพื่อช่วยจ้าวสุริยาเหยียนตี้พ่อของนาง จิงเว่ยคิดว่าสิงเทียนเทพแห่งสงคราม ซึ่งเป็นพ่อของโฮ่วอี้นั้นมีส่วนให้ร้ายจ้าวสุริยาเหยียนตี้พ่อของนางด้วยเหตุนี้จิงเว่ยจึงไม่ให้ความร่วมมือกับโฮ่วอี้ นางตัดสินใจไปช่วยจ้าวสุริยาเหยียนตี้พ่อของนางตามลำพังนางเชื่อมั่นว่านางเพียงคนเดียวก็สามารถช่วยจ้าวสุริยาเหยียนตี้ได้ แต่แล้วก็ไม่เป็นอย่างที่คิดนางต้องพบกับความล้มเหลว ในที่สุดจิงเว่ยก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าแม่ปัจฉิมให้ตามหาโฮ่วอี้ให้พบในเวลาเดียวกัน เทพอี้เหอพบความเคลื่อนไหวของโฮ่วอี้ ดังนั้นจึงสั่งให้เทพ พิรุณ เทพวายุ เทพอัคคีและเทพอัสนีไปกำจัดโฮ่วอี้ แล้วช่วงชิงศิลาเบญจทิพย์จากโฮ่วอี้มาให้ได้ จิงเว่ยจำแลงร่างเป็นสาวงามออกตามหาโฮ่วอี้ จนนางถูกโจรจับตัวไป จิงเว่ยไม่อยากให้ฐานะที่แท้จริงของนางเปิดเผยออกมา ทำให้นางถูกขายให้เมืองโหย่วฉงกั๋วเพื่อเป็นเครื่องบูชายัญเซ่นไหว้ จอมมารไป๋ตี้ ในเวลาเดียวกันโฮ่วอี้เดินทางมาถึงเมืองโหย่วฉงกั๋วและได้ช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่งไว้นึกไม่ถึงว่าโฮ่วอี้กลับถูกจับกุมตัวเอาไว้ โฮ่วอี้และจิงเว่ยถูกขังไว้ด้วยกันเพื่อใช้ในการบูชายัญ
จิงเว่ยไม่คาดคิดมาก่อนว่าลูกชายของศัตรูจะมีจิตใจดีงามและมีความกล้าหาญเช่นนี้ ทำให้นางเกิดความขัดแย้งขึ้นมาในใจว่านางสมควรจะยืนกรานตามความตั้งใจเดิมหรือไม่ไป๋ตี๋ขี่เมฆดำมาที่ลานบูชายัญ จากปากของไป๋ตี้ทำให้จิงเว่ยรู้ถึงความทุกข์ทรมาณของพ่อด้วยเหตุนี้เองทำให้จิงเว่ยตัดสินใจลืมความรู้สึกดี ๆ ที่นางมีต่อโฮ่วอี้ โดยคงความตั้งใจเดิมต่อไปก่อนอื่นจะต้องสยบไป๋ตี๋แล้วช่วงชิงชุดเกราะมาให้โฮ่วอี้ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้โฮ่วอี้ จิงเว่ยช่วยโฮ่วอี้จนตามหา เหลากุ่ย (กึ่งมารกึ่งเทพ แต่มีความภักดีต่อสิงเทียนและโฮ่วอี้มาก) คนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของสิงเทียน จากความช่วยเหลือของเหลากุ่ยและ เลี่ยงม๋อโซ่ว ทำให้ช่วงชิงเรือศิลาจากเทพอัสนีมาเพื่อใช้เป็นพาหนะเดินทางไปหาข่าฟู่ซึ่งพำนักอยู่ทะเลเหนือได้ ข่าฟู่มอบธนูวิเศษให้โฮ่วอี้นึกไม่ถึงว่ากลับถูกจิงเว่ยช่วงชิงธนูวิเศษไป โฮ่วอี้ตามล่าจิงเว่ยอย่างไม่ลดละโดยมีข่าฟูตามไปไม่ห่าง เทพอี้เหอฝึกปักษาทองโดยปล่อยให้ไปเล่นงานจิงเว่ยและโฮ่วอี้ เมื่อจิงเว่ยและโฮ่วอี้ถูกกำจัดลงแล้วต่อไปก็จะไม่มีใครมาขวางทางตน ปักษาทองม้วนตัวเป็นลูกไฟก้อนใหญ่ ชาวบ้านพากันมองด้วยความตกใจโดยเข้าใจผิดคิดว่ามีดวงอาทิตย์ผุดขึ้นมาอีกลูกหนึ่ง ข่าฟู่ตามล่าปักษาทองโดยจะแลกชีวิตกับปักษาทอง ก่อนที่ข่าฟู่จะสิ้นใจลงนั้นได้ทิ้งไม้เท้าไว้ ต่อมาไม้เท้าได้กลายเป็นป่าท้อ เพื่อไว้คุ้มครองจิงเว่ยและโฮ่วอี้ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส เทพอี้เหอวางอุบายให้เทพพิรุณ เทพอัสนีและเทพอัคคีล้อมป่าท้อไว้ โดยกดดันเหลากุ่ยซึ่งอารักขาป่าท้อนั้นให้ไปจากป่าท้อ ในเวลาเดียวกันเทพอี้เหอก็ฝึกปักษาทองได้อีกเก้าตัว โดยมีจุดมุ่งหมายใช้ปักษาทองครอบครองสามภพ ขณะที่เหตุการณ์กำลังวิกฤต เทพพิรุณก็สำนึกได้ถึงความถูกต้อง ดังนั้นจึงตัดสินใจทำลายประตูสวรรค์ แม้ว่าจะช่วยชีวิตจ้าวสุริยาไว้ได้ แต่เมื่อประตูสวรรค์ถูกทำลายลงทำให้สวรรค์และปฐพีขาดความสมดุล ด้วยเหตุนี้ทำให้มนุษย์พลอยได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติไปด้วย จ้าวสุริยาเหยียนตี้บอกจิงเว่ยว่ามีเพียงการเสียสละของเทพเท่านั้นที่จะช่วยชีวิตมนุษย์ไว้ได้ เพื่อช่วยชีวิตมวลมนุษย์เอาไว้ ทำให้โฮ่วอี้ต้องสูญเสียอิทธิฤทธิ์ไปจนหมดสิ้นต้องกลายเป็นคนธรรมดาเท่านั้นจิงเว่ยเองก็เช่นเดียวกัน เพื่อช่วยชีวิตมวลมนุษย์เอาไว้จิงเว่ยจำแลงร่างเป็นปักษาเขียวบินลงสู่ก้นทะเล เวลานี้นางตัดแล้วซึ่งบุญคุณความแค้นที่มีอยู่ สิ่งที่อยู่ในความทรงจำของจิงเว่ย มีเพียงการช่วยมวลมนุษย์ให้พ้นจากความทุกข์ โดยใช้ปากคาบก้อนหินถมทะเลให้เต็ม